วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

✿ [Review] ลิปมันเภสัชกร ทาแล้วฟินระดับ 100 ดาว

     'ลิปมันเภสัชกร' เป็นลิปมันที่เจ้าของบล็อกรู้จักมาตั้งแต่เด็กแต่ไม่เคยสนใจอย่างจริงจังสักที ซึ่งหลายปีที่ผ่านมามักจะหาลิปมันยี่ห้ออื่น ๆ  ใช้อยู่ตลอด ไม่ว่าจะแบบแท่ง แบบหลอดบีบ แบบกระปุก บางทีเห็นแค่บรรจุภัณฑ์น่ารัก ๆ  ก็ยังซื้อมาใช้เลย แต่คุณภาพก็ไม่โดนใจสักที บางยี่ห้อทาแล้วรู้สึกเหมือนเอาเทียนมาทาปาก นอกจากจะไม่ให้ความชุ่มชื่นแล้วยังรู้สึกหนาเป็นปึก ๆ  ไปอีก และลิปมันเป็นสิ่งที่เจ้าของบล็อกขาดไม่ได้เพราะไม่ชอบให้ตัวเองปากแห้ง ลืมพกลิปสติกได้แต่จะลืมพกลิปมันไม่ได้!

     แล้ววันที่ได้ทำความรู้จักกับลิปมันเภสัชกรอย่างเป็นทางการก็มาถึง วันนั้นระหว่างที่กำลังรอชำระเงินที่ร้านขายยาก็หันไปเห็นลิปมันเภสัชกรโดยบังเอิญแล้วเกิดสนใจขึ้นมา เพราะชื่อเสียงที่รู้จักมานานแถมราคาก็ถูกมาก วางขายในร้านขายยาอีกต่างหากเลยตัดสินใจซื้อมาลองใช้ค่ะ และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ใช้ลิปมันยี่ห้อนี้มาตลอด




ข้อดี :

1. ตลับเล็กพกพาง่ายไม่เปลืองพื้นที่กระเป๋า
2. กลิ่นหอมอ่อน ๆ
3. เนื้อลิปมันเป็นสีชมพูเบา ๆ  ทาก่อนทาลิปสีได้ ไม่ทำให้สีลิปสติกเพี้ยน
4. ทาแล้วปากชุ่มชื่นทันที
5. เนื้อลิปบางเบา ทาแล้วไม่รู้สึกรำคาญ
6. หนึ่งตลับใช้ได้นานพอสมควร
7. หาซื้อง่าย ส่วนใหญ่เจ้าของบล็อกจะซื้อที่ร้านขายยา เช่น ร้านยาหนึ่ง, ร้านยา Health Up เป็นต้น
8. ราคาถูกมาก เพียงแค่ตลับละ 12 - 15 บาท แล้วแต่ร้าน บางร้านมีโปรโมชั่นซื้อหลายตลับจะลดราคาลงอีก

ข้อเสีย :

     ต้องคอยเช็ดนิ้วหลังจากทาลิปมัน ถ้าใครไม่ค่อยชอบให้นิ้วเลอะมือเลอะอาจจะเซ็งได้ (บางครั้งเจ้าของบล็อกก็เซ็งค่ะ)


วิธีใช้ :

     แค่ปาดวน ๆ  บนผิวลิปมัน เพื่อให้เนื้อลิปมันติดที่นิ้วแล้วทาริมฝีปากได้เลยค่ะ วนหลายรอบหน่อยก็ได้แล้วก็ทาซ้ำ ๆ  ไม่ต้องจิ้มแรงหรือควักเนื้อลิปมันออกมาโปะนะคะ ทาบาง ๆ  ก็เพียงพอแล้ว


     สิ่งนี้คือของใช้ราคาถูกและดีจริง ๆ  สำหรับเจ้าของบล็อกค่ะ การรีวิวแบบรีบ ๆ  ในครั้งนี้อาจจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาลิปมันดี ๆ  สักชิ้นนะคะ ☆*:.。.o(≧▽≦)o.。.:*☆





วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

✿ [Talk] ของเล่นสุดประทับใจในวัยเด็ก

     เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากเขียนมากค่ะ เพราะมันเป็นความชอบที่ไม่เคยหายไปเลย ของเล่นบางอย่างขนาดโตจนป่านนี้แล้วก็ยังอยากเล่นอยู่ ยังจำคำพูดตอนเด็กของตัวเองที่บอกพ่อกับแม่ได้ว่า 'เดี๋ยวโตขึ้นลูกจะเก็บตังค์ซื้อของเล่นเอง' ซึ่งตอนนั้นตั้งใจแน่วแน่มาก แต่ทุกวันนี้ตังค์หมดไปกับบัตรคอนเสิร์ตละ

     พอนึกถึงของเล่นแล้วรู้สึกตาเป็นประกายชุ่มฉ่ำหัวใจยังไงบอกไม่ถูก แล้วเพื่อน ๆ  มีของเล่นในดวงใจกี่อย่างกันบ้างคะ มีหนึ่งในสิ่งเหล่านี้อยู่ด้วยหรือเปล่า

หมายเหตุ : รูปภาพนำมาจาก Google และ Pinterest ทั้งหมดนะคะ ต้องขอขอบคุณเจ้าของภาพต้นฉบับทุกท่านด้วยค่ะ เพราะของเล่นตัวจริงมันหายไปหมดแล้ววว

1. ผลไม้แก้ว


     ตัวนี้แหละคือของเล่นที่ชอบมากถึงมากที่สุดและปัจจุบันนี้ก็ยังอยากได้อยู่ค่ะ ต้องเป็นแบบใส ๆ  แบบนี้ด้วย วิธีซื้อก็ไม่ธรรมดาเพราะต้องใช้เหรียญบาทหรือเหรียญสตางค์นี่แหละไปหมุนกับโหลก่อนถึงจะได้ผลไม้มาสักกระจึ๋งนึง บางโหลจะปนอยู่กับถั่วที่ไม่อร่อยอีกต่างหาก ถ้าจำเป็นต้องหมุนจากโหลถั่วเจ้าของบล็อกก็จะทิ้งถั่วแล้วเก็บแต่ของเล่นไว้ ซึ่งดูเป็นเด็กที่สิ้นเปลืองมาก เป็นของเล่นที่ไม่มีวิธีการเล่น เพราะบางครั้งก็แค่หยิบมาแยกสี บางทีก็หยิบมาดูเฉย ๆ  ว่าอันไหนคือผลไม้อะไร พอดูจนหนำใจแล้วก็จะเก็บใส่ถุงเอาไว้อย่างดี และใช่ค่ะ ของที่เก็บไว้อย่างดีมักจะหายก่อนเสมอ


2. ตุ๊กตากระดาษ


     ตุ๊กตากระดาษถือเป็นเรื่องละมุนในชีวิตเจ้าของบล็อกค่ะ จะพิถีพิถันและใช้เวลาในการเลือกตุ๊กตาแต่ละแผ่นนานมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องคิดนาน ด้วยความที่หาซื้อง่ายและราคาถูกก็ซื้อเล่นมาตลอดแบบไม่มีเบื่อ เคยซื้อแบบเป็นเล่มมาเล่นด้วยแต่ชุดก็ไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ พอสักป.5-ป.6 เริ่มวาดรูปเป็นก็วาดตุ๊กตากระดาษเองและวาดชุดเองให้มันทันสมัยขึ้นเพราะเบื่อกับชุดฟู ๆ  เวอร์ ๆ  ในแผงแล้ว ลวดลายของชุดก็ไม่ต้องระบายสีอะไรเพิ่มค่ะ เพราะแค่ทาบตุ๊กตาแล้ววาดโครงร่างชุดกับนิตยสารเก่า ๆ  ที่กระดาษดี ๆ  หน่อย ก็จะได้ลายชุดเป็นตัวหนังสือบ้างเป็นต้นไม้ดอกไม้บ้าง พอขึ้นชั้นมัธยมก็ยังไม่หยุดเล่น แต่คราวนี้เริ่มลงทุนมากขึ้นเพราะไปซื้อกระดาษที่ 'ร้าน 555' มาบุญครองมาวาดชุดให้ตุ๊กตากระดาษ อยากได้กระดาษแบบไหนก็หยิบใส่ถาดแล้วค่อยเอาไปคิดเงินโดยชั่งเป็นขีด เรื่องนี้เป็นความลับที่เพื่อนที่โรงเรียนก็ไม่รู้ เพื่อนแถวบ้านก็ไม่รู้ มันเป็นความสุขในช่วงเวลานั้นที่อยากเก็บเอาไว้คนเดียว 

     ขอย้อนไปถึงชะตากรรมของตุ๊กตากระดาษแบบแผงให้ฟังอีกสักนิด ช่วงที่เด็กมากในตอนนั้น เวลาที่เล่นตัวเดิม ๆ  นานเข้าจนคอตุ๊กตาเริ่มอ่อนจะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ แล้วก็ไม่อยากติดสก็อตเทปที่คอตุ๊กตาแล้วด้วย เจ้าของบล็อกจะใช้วิธีให้ตุ๊กตาอยากว่ายน้ำค่ะ จะเล่นบทพาไปว่ายน้ำนู่นนี่นั่น ตักน้ำใส่ขันแล้วก็พาพวกนางกระโดดตูมลงไปเลย จากนั้นทุกตัวก็เปื่อย แล้วก็ซื้อใหม่วนไปเรื่อยไม่รู้เบื่อ


3. เครื่องครัวสังกะสี


     ชุดเครื่องครัวสังกะสีแบบที่เจ้าของบล็อกเคยซื้อเล่นหน้าตาก็จะคล้าย ๆ  ในรูปนี้ค่ะ ทุกชิ้นจะมีลายของมันเองและไม่ซ้ำกัน เหมือนเค้ารีไซเคิลมาจากกระป๋องอาหารหรืออะไรสักอย่างแหละ เป็นของเล่นที่ไม่ทนที่สุด บอบบาง พังง่าย แต่เพราะมันเหมือนเครื่องครัวจริง ๆ  เลยชอบเล่นค่ะ


4. หม้อข้าวหม้อแกงดินเผา


     ของเล่นที่แตกง่ายที่สุดในปฐพี แค่หลุดมือนิดเดียวก็ร้าวแล้ว และเป็นของเล่นที่อยากจุดไฟจริงมากที่สุดแต่ไม่เคยทำ เพื่อนแถวบ้านก็จะมีแบบเดียวกันนี้ด้วยก็จะผลัดกันว่าจะไปเล่นที่บ้านใคร เวลาเพื่อนมาเล่นที่บ้านเราแล้วทำของเล่นเราแตกก็ไม่ว่าอะไรเพื่อนนะ แต่เวลาเราไปทำของเล่นเพื่อนแตกทำไมถึงมีความรู้สึกผิดมากก็ไม่รู้

     ช่วงย้อนเหตุการณ์ระทึก... วันนั้นจำได้ว่านั่งเล่นหม้อข้าวหม้อแกงอยู่ที่บ้านเพื่อน แล้วเจ้าของบล็อกกำลังถือเจ้าพวกนี้อยู่สักใบสองใบนี่แหละ ปรากฏว่ามันหลุดมือตกพื้นแตกกระจายเลย และชีวิตจริงคือซิทคอม เพราะแม่เพื่อนเดินเข้าบ้านมาเห็นเหตุการณ์พอดี ตอนนั้นตกใจสุดขีดรีบวิ่งแจ้นหนีกลับบ้าน เสียงเพื่อนก็ตะโกนเรียกไล่หลังไม่หยุดแต่นี่ก็ไม่หยุดเหมือนกัน วิ่งหนีสุดชีวิตมานั่งตกใจอยู่ในบ้านเพราะกลัวแม่เพื่อนไปแจ้งตำรวจ (เพราะทำของเล่นแตก (= _ =;))  พอวันรุ่งขึ้นก็ไปเล่นที่บ้านเพื่อนคนเดิมอีก เพื่อนบอกว่าเมื่อวานตะโกนเรียกทำไมไม่กลับมาเล่นด้วยกันต่อ เพื่อนบอกว่าแม่ไม่ได้ว่าอะไรเลย สรุป คิดเองเออเองอยู่คนเดียว!


5. ชุดเครื่องครัวพลาสติกจิ๋ว


     เจอแค่รูปนี้จริง ๆ  ค่ะ คือใช่เลย อันนี้แหละที่ซื้อเล่น เป็นเพราะชอบเล่นขายของก็เลยจะซื้อของเล่นเครื่องครัวอยู่บ่อย ๆ  แบบไหนก็ซื้อหมด ที่ชอบที่สุดในเซ็ทนี้ก็คือเบ้าขนมครกค่ะ เอาดินน้ำมันอุดลงไปให้เป็นขนมครก แคะก็ยากเพราะหลุมมันเล็กมาก ซื้อเองขายเองอยู่คนเดียว


6. ชุดเครื่องครัวพลาสติกจริงจัง


     หลัง ๆ  จะซื้อชุดเครื่องครัวจากในห้างสรรพสินค้ามาเล่นค่ะ มันก็จะสมจริงขึ้นมาอีกหน่อย เวลาไปเดินเล่นกับพ่อแม่ก็ต้องไปโซนขายของเล่นตลอด ซื้อสะสมมาเรื่อย ๆ  เวลาเล่นก็ใส่น้ำในกาบ้างในหม้อบ้าง แล้วก็เอาแป้งทาตัวมาผสมน้ำทำเป็นน้ำกะทิ แค่นี้ก็สนุกแล้วค่ะ


7. ดินน้ำมัน


     มันคือดินน้ำมันสารพัดนึกค่ะ เพราะปั้นได้ทุกอย่างตามที่ใจคิด นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเล่นขายของด้วยเหมือนกันเพราะชอบปั้นเป็นเมนูอาหารค่ะ จะทำแฮมเบอร์เกอร์ก็ปั้นขนมปัง เนื้อ แล้วก็ผัก เอามาวางซ้อนกันให้เหมือนของจริงแล้วก็ใส่จานของเล่นไปอวดย่า บางทีก็ปั้นเป็นเนื้อสัตว์ ปั้นเป็นผัก แล้วก็หั่นให้เป็นวัตถุดิบในการเล่นทำกับข้าว หรือถ้าไม่เล่นขายของก็จะเอาดินน้ำมันมาแปะบนเล็บตัวเองเหมือนเราได้ทาเล็บอยู่ และที่พลาดไม่ได้ก็คือเอามาทำรางเป่าดินน้ำมันเหมือนที่หลายคนชอบเล่นกันค่ะ ถ้าเล่นกับพ่อพ่อจะชอบทำให้ทางมีอุปสรรคเยอะจนไม่อยากจะให้มาเล่นด้วยเลย สุดท้ายถ้าบางทีไม่รู้จะเล่นอะไรก็จะเอาดินน้ำมันไปตากแดดให้มันนิ่มแล้วก็เอามาบีบ ๆ  ปั้น ๆ  ให้มันเหม็นมือเล่นซะอย่างนั้นแหละ


8. เกมกดน้ำ


     ตอนที่ Search หารูปเกมกดน้ำยังคิดอยู่เลยว่าจะเจอแบบที่เรามีไหมนะ แต่พอเลื่อนมาเจอรูปนี้ปุ๊บกรี๊ดเลย! มันคืออันนี้! เกมกดน้ำอันแรกในชีวิต! คิดถึงช่วงเวลาที่นั่งกดเม็ดสี ๆ  ให้เข้าปากฮิปโป บางทีก็เขย่าเพราะโมโหที่เม็ดสุดท้ายไม่เข้าปากสักที และหลายครั้งที่หาวิธีเทน้ำออก แต่จำไม่ได้ว่าเคยเทน้ำออกสำเร็จหรือเปล่า


9. เกมกด


     เกมกดรุ่นนี้ไม่ใช่เครื่องแรก แต่ถือเป็นรุ่นแรก ๆ  ที่ได้เล่นค่ะ เครื่องแรกที่เล่นจะเป็นจานบินหนีระเบิดที่ตกลงมา แค่กดย้ายยานจากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย โดยไม่ให้โดนระเบิดวนไปเรื่อยแต่ก็ยังสนุก ถ้าถ่านหมดก็เอาถ่านไปแช่ช่องฟรีซก่อนแล้วค่อยเอามาใส่ใหม่ จนตอนหลังได้เล่นเกมป๊อบอายเพราะชอบดูการ์ตูนเรื่องนี้ และสิ่งที่ชอบทำกับเกมกดก็คือกดหน้าจอเล่นเพื่อให้มันขึ้นทุกอย่างแบบในรูปค่ะ มันจะขึ้นมาจาง ๆ  ตอนเรากดแล้วก็หายไป ตอนที่ทำครั้งแรกรู้สึกอเมซิ่งมาก คิดว่าตัวเองคิดค้นได้อยู่คนเดียว ซึ่งถ้าไม่ได้เปิดเกมเล่นก็จะกดหน้าจอเล่นเฉย ๆ  หน้าจอไม่แตกตั้งแต่ตอนนั้นก็บุญแค่ไหนแล้ว


10. กระบอกหมุนเปลี่ยนลวดลาย


     เจ้าของบล็อกเคยมีลายเดียวกับอันกลางค่ะ เป็นผ้าสีแดงลายดอกนี่เลย ด้านในน่าจะเป็นลูกปัดแบบเหลี่ยมหลากสีแล้วมีกระจกด้านในทำให้เห็นภาพสะท้อนเป็นมุมกว้าง ส่องจากรูเล็ก ๆ  ด้านบนแล้วหมุนกระบอกไปเรื่อย ๆ  ลวดลายด้านในก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ  เหมือนดอกไม้หลาย ๆ  ดอกสวยมาก เวลาลูกปัดเปลี่ยนมุมก็จะมีเสียงกริ๊ก ๆ  ด้วย ตอนนั้นเจ้าของบล็อกคิดเอาเองว่าแต่ละมุมที่หมุน ลวดลายจะไม่เคยซ้ำกันเลย ซึ่งจริง ๆ  แล้วมันก็ต้องซ้ำนั่นแหละแต่จำไม่ได้เอง เคยจับกระบอกมาเขย่าแรง ๆ  เพราะอยากรู้ว่าสี ๆ  ด้านในจะหลุดไหมแต่มันก็ไม่เคยหลุด ไม่เคยพัง มันตัดสินใจที่จะหายอย่างเดียวเท่านั้น ปัจจุบันยังมีรุ่นนี้ขายหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยากได้คืนมาก ๆ  ค่ะ


11. ตุ๊กตาไขลานอาราเล่


     'ตุ๊กตาไขลานอาราเล่' คล้ายแบบตัวที่ใส่หมวกนี่เป๊ะเลย หมวกสีชมพู ผมสีม่วง เท้าเดินแบบนี้ แต่ที่เจ้าของบล็อกมีมันจะไม่มีภาษาญี่ปุ่นที่ด้านข้างหัวค่ะ ไม่น่าใจดียกให้คนอื่นเค้าไปเลย ทำยังไงก็ลืมไม่ลงสักที


     ยังมีของเล่นอีกหลายอย่างที่อยู่ในความทรงจำค่ะ แต่ที่ชัดเจนในใจคือของพวกนี้เพราะจะเล่นบ่อยที่สุด บางครั้งออกไปเล่นกับเพื่อนแถวบ้านบ้าง ออกไปปั่นจักรยานเล่นบ้าง แต่ส่วนมากจะเล่นของเล่นอยู่ในบ้านซะมากกว่า ความสุขง่าย ๆ  ในวัยเด็กยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอค่ะ ♡





วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

✿ Live สด น้องมาเรียมและน้องยามีลลูกพะยูนน้อยผ่านกล้อง CCTV

     ติดตามชีวิตลูกพะยูนน้อย น้องมาเรียมและน้องยามีล ผ่านกล้อง CCTV ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
กดที่รูปหรือที่ลิงก์ด้านล่างนะคะ



26 เมษายน 2562 :

     พบลูกพะยูนความยาว 120 เซนติเมตร อายุ 6 เดือน เกยตื้นพื้นที่บริเวณท่าเรือโกเต็ก  คลองม่วง อ.เมือง จ.กระบี่ สภาพร่างกายสมบูรณ์ ไม่พบรอยบาดแผล สามารถว่ายน้ำได้เป็นปกติ ลูกพะยูนตัวนี้เป็นเพศเมีย ภายหลังได้มีการตั้งชื่อน้องว่า "มาเรียม" ซึ่งตามหลักศาสนาอิสลามที่ชาวบ้านเกาะลิบงช่วยกันตั้งชื่อนี้มีความหมายว่า "ผู้หญิงที่มีจิตใจงดงาม" เปรียบเสมือนความรัก ความหวงแหน และความผูกพันที่ชาวบ้านเกาะลิบงมีต่อพะยูน ซึ่งเป็นสัตว์สงวนประจำท้องถิ่นของจังหวัดตรัง

1 กรกฏาคม 2562 :

     พบลูกพะยูนเกยตื้นบริเวณชายหาดจังหวัดกระบี่ พบบาดแผลหลายแห่งบริเวณลำตัว คาดว่าเกิดจากการที่มันพยายามดิ้นช่วยเหลือตัวเองในช่วงเกยตื้น ลูกพะยูนตัวนี้เป็นเพศผู้ยาวประมาณ 1 เมตร หนักประมาณ 30 กิโลกรัม อายุ 3 เดือน และน้องได้ชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ราชกัญญา ว่า "ยามีล" เป็นภาษายาวีแปลว่า "ชายรูปงามแห่งท้องทะเล"

     และลูกพะยูนทั้ง 2 ตัว ได้รับพระเมตตาจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ราชกัญญา ทรงพระกรุณารับพะยูนมาเรียมและพะยูนยามีล ไว้ในโครงการ "อนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์"




ข้อมูลอ้างอิง :

Facebook : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง





◕ 10 อันดับบทความยอดนิยมประจำสัปดาห์ ◕