พอนึกถึงของเล่นแล้วรู้สึกตาเป็นประกายชุ่มฉ่ำหัวใจยังไงบอกไม่ถูก แล้วเพื่อน ๆ มีของเล่นในดวงใจกี่อย่างกันบ้างคะ มีหนึ่งในสิ่งเหล่านี้อยู่ด้วยหรือเปล่า
หมายเหตุ : รูปภาพนำมาจาก Google และ Pinterest ทั้งหมดนะคะ ต้องขอขอบคุณเจ้าของภาพต้นฉบับทุกท่านด้วยค่ะ เพราะของเล่นตัวจริงมันหายไปหมดแล้ววว
1. ผลไม้แก้ว
ตัวนี้แหละคือของเล่นที่ชอบมากถึงมากที่สุดและปัจจุบันนี้ก็ยังอยากได้อยู่ค่ะ ต้องเป็นแบบใส ๆ แบบนี้ด้วย วิธีซื้อก็ไม่ธรรมดาเพราะต้องใช้เหรียญบาทหรือเหรียญสตางค์นี่แหละไปหมุนกับโหลก่อนถึงจะได้ผลไม้มาสักกระจึ๋งนึง บางโหลจะปนอยู่กับถั่วที่ไม่อร่อยอีกต่างหาก ถ้าจำเป็นต้องหมุนจากโหลถั่วเจ้าของบล็อกก็จะทิ้งถั่วแล้วเก็บแต่ของเล่นไว้ ซึ่งดูเป็นเด็กที่สิ้นเปลืองมาก เป็นของเล่นที่ไม่มีวิธีการเล่น เพราะบางครั้งก็แค่หยิบมาแยกสี บางทีก็หยิบมาดูเฉย ๆ ว่าอันไหนคือผลไม้อะไร พอดูจนหนำใจแล้วก็จะเก็บใส่ถุงเอาไว้อย่างดี และใช่ค่ะ ของที่เก็บไว้อย่างดีมักจะหายก่อนเสมอ
2. ตุ๊กตากระดาษ
ตุ๊กตากระดาษถือเป็นเรื่องละมุนในชีวิตเจ้าของบล็อกค่ะ จะพิถีพิถันและใช้เวลาในการเลือกตุ๊กตาแต่ละแผ่นนานมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องคิดนาน ด้วยความที่หาซื้อง่ายและราคาถูกก็ซื้อเล่นมาตลอดแบบไม่มีเบื่อ เคยซื้อแบบเป็นเล่มมาเล่นด้วยแต่ชุดก็ไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ พอสักป.5-ป.6 เริ่มวาดรูปเป็นก็วาดตุ๊กตากระดาษเองและวาดชุดเองให้มันทันสมัยขึ้นเพราะเบื่อกับชุดฟู ๆ เวอร์ ๆ ในแผงแล้ว ลวดลายของชุดก็ไม่ต้องระบายสีอะไรเพิ่มค่ะ เพราะแค่ทาบตุ๊กตาแล้ววาดโครงร่างชุดกับนิตยสารเก่า ๆ ที่กระดาษดี ๆ หน่อย ก็จะได้ลายชุดเป็นตัวหนังสือบ้างเป็นต้นไม้ดอกไม้บ้าง พอขึ้นชั้นมัธยมก็ยังไม่หยุดเล่น แต่คราวนี้เริ่มลงทุนมากขึ้นเพราะไปซื้อกระดาษที่ 'ร้าน 555' มาบุญครองมาวาดชุดให้ตุ๊กตากระดาษ อยากได้กระดาษแบบไหนก็หยิบใส่ถาดแล้วค่อยเอาไปคิดเงินโดยชั่งเป็นขีด เรื่องนี้เป็นความลับที่เพื่อนที่โรงเรียนก็ไม่รู้ เพื่อนแถวบ้านก็ไม่รู้ มันเป็นความสุขในช่วงเวลานั้นที่อยากเก็บเอาไว้คนเดียว
ขอย้อนไปถึงชะตากรรมของตุ๊กตากระดาษแบบแผงให้ฟังอีกสักนิด ช่วงที่เด็กมากในตอนนั้น เวลาที่เล่นตัวเดิม ๆ นานเข้าจนคอตุ๊กตาเริ่มอ่อนจะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ แล้วก็ไม่อยากติดสก็อตเทปที่คอตุ๊กตาแล้วด้วย เจ้าของบล็อกจะใช้วิธีให้ตุ๊กตาอยากว่ายน้ำค่ะ จะเล่นบทพาไปว่ายน้ำนู่นนี่นั่น ตักน้ำใส่ขันแล้วก็พาพวกนางกระโดดตูมลงไปเลย จากนั้นทุกตัวก็เปื่อย แล้วก็ซื้อใหม่วนไปเรื่อยไม่รู้เบื่อ
3. เครื่องครัวสังกะสี
ชุดเครื่องครัวสังกะสีแบบที่เจ้าของบล็อกเคยซื้อเล่นหน้าตาก็จะคล้าย ๆ ในรูปนี้ค่ะ ทุกชิ้นจะมีลายของมันเองและไม่ซ้ำกัน เหมือนเค้ารีไซเคิลมาจากกระป๋องอาหารหรืออะไรสักอย่างแหละ เป็นของเล่นที่ไม่ทนที่สุด บอบบาง พังง่าย แต่เพราะมันเหมือนเครื่องครัวจริง ๆ เลยชอบเล่นค่ะ
4. หม้อข้าวหม้อแกงดินเผา
ของเล่นที่แตกง่ายที่สุดในปฐพี แค่หลุดมือนิดเดียวก็ร้าวแล้ว และเป็นของเล่นที่อยากจุดไฟจริงมากที่สุดแต่ไม่เคยทำ เพื่อนแถวบ้านก็จะมีแบบเดียวกันนี้ด้วยก็จะผลัดกันว่าจะไปเล่นที่บ้านใคร เวลาเพื่อนมาเล่นที่บ้านเราแล้วทำของเล่นเราแตกก็ไม่ว่าอะไรเพื่อนนะ แต่เวลาเราไปทำของเล่นเพื่อนแตกทำไมถึงมีความรู้สึกผิดมากก็ไม่รู้
ช่วงย้อนเหตุการณ์ระทึก... วันนั้นจำได้ว่านั่งเล่นหม้อข้าวหม้อแกงอยู่ที่บ้านเพื่อน แล้วเจ้าของบล็อกกำลังถือเจ้าพวกนี้อยู่สักใบสองใบนี่แหละ ปรากฏว่ามันหลุดมือตกพื้นแตกกระจายเลย และชีวิตจริงคือซิทคอม เพราะแม่เพื่อนเดินเข้าบ้านมาเห็นเหตุการณ์พอดี ตอนนั้นตกใจสุดขีดรีบวิ่งแจ้นหนีกลับบ้าน เสียงเพื่อนก็ตะโกนเรียกไล่หลังไม่หยุดแต่นี่ก็ไม่หยุดเหมือนกัน วิ่งหนีสุดชีวิตมานั่งตกใจอยู่ในบ้านเพราะกลัวแม่เพื่อนไปแจ้งตำรวจ (เพราะทำของเล่นแตก (= _ =;)) พอวันรุ่งขึ้นก็ไปเล่นที่บ้านเพื่อนคนเดิมอีก เพื่อนบอกว่าเมื่อวานตะโกนเรียกทำไมไม่กลับมาเล่นด้วยกันต่อ เพื่อนบอกว่าแม่ไม่ได้ว่าอะไรเลย สรุป คิดเองเออเองอยู่คนเดียว!
5. ชุดเครื่องครัวพลาสติกจิ๋ว
เจอแค่รูปนี้จริง ๆ ค่ะ คือใช่เลย อันนี้แหละที่ซื้อเล่น เป็นเพราะชอบเล่นขายของก็เลยจะซื้อของเล่นเครื่องครัวอยู่บ่อย ๆ แบบไหนก็ซื้อหมด ที่ชอบที่สุดในเซ็ทนี้ก็คือเบ้าขนมครกค่ะ เอาดินน้ำมันอุดลงไปให้เป็นขนมครก แคะก็ยากเพราะหลุมมันเล็กมาก ซื้อเองขายเองอยู่คนเดียว
6. ชุดเครื่องครัวพลาสติกจริงจัง
หลัง ๆ จะซื้อชุดเครื่องครัวจากในห้างสรรพสินค้ามาเล่นค่ะ มันก็จะสมจริงขึ้นมาอีกหน่อย เวลาไปเดินเล่นกับพ่อแม่ก็ต้องไปโซนขายของเล่นตลอด ซื้อสะสมมาเรื่อย ๆ เวลาเล่นก็ใส่น้ำในกาบ้างในหม้อบ้าง แล้วก็เอาแป้งทาตัวมาผสมน้ำทำเป็นน้ำกะทิ แค่นี้ก็สนุกแล้วค่ะ
7. ดินน้ำมัน
มันคือดินน้ำมันสารพัดนึกค่ะ เพราะปั้นได้ทุกอย่างตามที่ใจคิด นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเล่นขายของด้วยเหมือนกันเพราะชอบปั้นเป็นเมนูอาหารค่ะ จะทำแฮมเบอร์เกอร์ก็ปั้นขนมปัง เนื้อ แล้วก็ผัก เอามาวางซ้อนกันให้เหมือนของจริงแล้วก็ใส่จานของเล่นไปอวดย่า บางทีก็ปั้นเป็นเนื้อสัตว์ ปั้นเป็นผัก แล้วก็หั่นให้เป็นวัตถุดิบในการเล่นทำกับข้าว หรือถ้าไม่เล่นขายของก็จะเอาดินน้ำมันมาแปะบนเล็บตัวเองเหมือนเราได้ทาเล็บอยู่ และที่พลาดไม่ได้ก็คือเอามาทำรางเป่าดินน้ำมันเหมือนที่หลายคนชอบเล่นกันค่ะ ถ้าเล่นกับพ่อพ่อจะชอบทำให้ทางมีอุปสรรคเยอะจนไม่อยากจะให้มาเล่นด้วยเลย สุดท้ายถ้าบางทีไม่รู้จะเล่นอะไรก็จะเอาดินน้ำมันไปตากแดดให้มันนิ่มแล้วก็เอามาบีบ ๆ ปั้น ๆ ให้มันเหม็นมือเล่นซะอย่างนั้นแหละ
8. เกมกดน้ำ
ตอนที่ Search หารูปเกมกดน้ำยังคิดอยู่เลยว่าจะเจอแบบที่เรามีไหมนะ แต่พอเลื่อนมาเจอรูปนี้ปุ๊บกรี๊ดเลย! มันคืออันนี้! เกมกดน้ำอันแรกในชีวิต! คิดถึงช่วงเวลาที่นั่งกดเม็ดสี ๆ ให้เข้าปากฮิปโป บางทีก็เขย่าเพราะโมโหที่เม็ดสุดท้ายไม่เข้าปากสักที และหลายครั้งที่หาวิธีเทน้ำออก แต่จำไม่ได้ว่าเคยเทน้ำออกสำเร็จหรือเปล่า
9. เกมกด
เกมกดรุ่นนี้ไม่ใช่เครื่องแรก แต่ถือเป็นรุ่นแรก ๆ ที่ได้เล่นค่ะ เครื่องแรกที่เล่นจะเป็นจานบินหนีระเบิดที่ตกลงมา แค่กดย้ายยานจากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย โดยไม่ให้โดนระเบิดวนไปเรื่อยแต่ก็ยังสนุก ถ้าถ่านหมดก็เอาถ่านไปแช่ช่องฟรีซก่อนแล้วค่อยเอามาใส่ใหม่ จนตอนหลังได้เล่นเกมป๊อบอายเพราะชอบดูการ์ตูนเรื่องนี้ และสิ่งที่ชอบทำกับเกมกดก็คือกดหน้าจอเล่นเพื่อให้มันขึ้นทุกอย่างแบบในรูปค่ะ มันจะขึ้นมาจาง ๆ ตอนเรากดแล้วก็หายไป ตอนที่ทำครั้งแรกรู้สึกอเมซิ่งมาก คิดว่าตัวเองคิดค้นได้อยู่คนเดียว ซึ่งถ้าไม่ได้เปิดเกมเล่นก็จะกดหน้าจอเล่นเฉย ๆ หน้าจอไม่แตกตั้งแต่ตอนนั้นก็บุญแค่ไหนแล้ว
10. กระบอกหมุนเปลี่ยนลวดลาย
เจ้าของบล็อกเคยมีลายเดียวกับอันกลางค่ะ เป็นผ้าสีแดงลายดอกนี่เลย ด้านในน่าจะเป็นลูกปัดแบบเหลี่ยมหลากสีแล้วมีกระจกด้านในทำให้เห็นภาพสะท้อนเป็นมุมกว้าง ส่องจากรูเล็ก ๆ ด้านบนแล้วหมุนกระบอกไปเรื่อย ๆ ลวดลายด้านในก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เหมือนดอกไม้หลาย ๆ ดอกสวยมาก เวลาลูกปัดเปลี่ยนมุมก็จะมีเสียงกริ๊ก ๆ ด้วย ตอนนั้นเจ้าของบล็อกคิดเอาเองว่าแต่ละมุมที่หมุน ลวดลายจะไม่เคยซ้ำกันเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ต้องซ้ำนั่นแหละแต่จำไม่ได้เอง เคยจับกระบอกมาเขย่าแรง ๆ เพราะอยากรู้ว่าสี ๆ ด้านในจะหลุดไหมแต่มันก็ไม่เคยหลุด ไม่เคยพัง มันตัดสินใจที่จะหายอย่างเดียวเท่านั้น ปัจจุบันยังมีรุ่นนี้ขายหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยากได้คืนมาก ๆ ค่ะ
11. ตุ๊กตาไขลานอาราเล่
'ตุ๊กตาไขลานอาราเล่' คล้ายแบบตัวที่ใส่หมวกนี่เป๊ะเลย หมวกสีชมพู ผมสีม่วง เท้าเดินแบบนี้ แต่ที่เจ้าของบล็อกมีมันจะไม่มีภาษาญี่ปุ่นที่ด้านข้างหัวค่ะ ไม่น่าใจดียกให้คนอื่นเค้าไปเลย ทำยังไงก็ลืมไม่ลงสักที
ยังมีของเล่นอีกหลายอย่างที่อยู่ในความทรงจำค่ะ แต่ที่ชัดเจนในใจคือของพวกนี้เพราะจะเล่นบ่อยที่สุด บางครั้งออกไปเล่นกับเพื่อนแถวบ้านบ้าง ออกไปปั่นจักรยานเล่นบ้าง แต่ส่วนมากจะเล่นของเล่นอยู่ในบ้านซะมากกว่า ความสุขง่าย ๆ ในวัยเด็กยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอค่ะ ♡
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น